ประวัติศาสตร์ สนูส
สวีดิชสนูส –ประวัติอันน่าภูมิใจตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
ในช่วงกลางปีคริสต์ ศตวรรษ1500 ใบยาสูบบดละเอียดและตากแห้งถูกเรียกขานว่า ยานัตถุ์ได้เข้ามามีบทบาททางด้านการแพทย์ทั้งในประเทศสเปนและฝรั่งเศส เอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำโปรตุเกส ฉ็อง นิโค ได้มีโอกาสรู้จักต้นยาสูบและเค้ายังได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นผู้ที่ทูลเกล้าแนะนำ ยานัตถุ์ ให้แก่สมเด็จพระราชินี Catherine of Medici แห่งฝรั่งเศส เพื่อใช้บรรเทาอาการปวดเรื้อรังจากไมเกรน และอาการปวดของพระองค์ก็ดีขึ้นตามลำดับ
ข่าวลือเกี่ยวกับการค้นพบพืชชนิดใหม่นี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมากและยาสูบรูปแบบการสูดดมก็ได้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มของกลุ่มคนชั้นสูงที่ไม่ได้ใช้เฉพาะในรูปแบบยารักษาโรคจากนั้นฌ็อค นิโค ก็ได้กลายมาเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญใบยาสูบเป็นอย่างมาก
นักพฤกษศาสตร์ผู้โด่งดัง คอล ฟ็อน ลินเนียผู้ริเริ่มการจัดแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ และการประยุกต์ใช้ระบบการเรียกชื่อสิ่งมีชีวิตแบบทวินาม ซึ่งมีประโยชน์ในการศึกษาชีววิทยาต่อมาจวบจนปัจจุบัน และเป็นที่รู้จักในฉายา “บิดาอนุกรมวิธานสมัยใหม่”
ขณะที่กรุงปารีสเป็นใจกลางของวัฒนธรรมและการเมืองในขณะนั้น แนวโน้มกระแสนิยมของยานัตถุ์ได้แพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งยุโรป ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะในกลุ่มของพวกขุนนางและกลุ่มคนชั้นสูงที่มีฐานะเท่านั้นที่นิยมแต่ยังได้เข้าถึงกลุ่มประชาชนทั่วๆไปอีกด้วย อย่างไรก็ตามการที่ยานัตถุ์ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายอย่างมากเฉพาะในกลุ่มของคนชั้นสูงทำให้กลุ่มชนชั้นแรงงานเกิดการต่อต้านและเกลียดชัง อันเป็นการส่งผลมาจากการแบ่งชนชั้นและความไม่สงบทางการเมืองภายในฝรั่งเศสในขณะนั่นเอง ทำให้ยานัตถุ์ถูกใช้เฉพาะกลุ่มขุนนางและชนชั้นสูง ส่วนชนชั้นคนงานรวมถึงประชาชนทั่วไปใช้เคี้ยว
ส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยปกติแล้วจะมีภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งยาสูบในที่นี่ก็ไม่ต่างกัน ครั้งแรกที่ประเทศสวีเดนได้รู้จักกับยาสูบ ตามที่ประวัติศาสตร์สามารถค้นพบต้องย้อนไปในตอนต้นศตวรรษที่ 1601 ก็คือการถูกค้นพบผ่านเอกสารของกรมศุลกากรซึ่งได้ระบุคำจำกัดความไว้ให้ยาสูบคือ ความเพลิดเพลิน เลยเป็นผลทำให้ยาสูบเป็นที่สนใจของผู้คนและมีความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของอย่างมากทั่วประเทศ
เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลิน ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกับเมื่อ 400 ปี การออกกฏหมายที่มีความเข้มงวดของภาษีนำไปสู่การลักลอบขนสินค้าประเภทบุหรี่กันอย่างแพร่หลาย
ความพยายามที่จะขจัดขบวนการลักลอบขนาดใหญ่ของกรมศุลกากรในขณะนั้น สมเด็จพระราชินีของสวีเดนพระนามว่า สมเด็จพระราชินี Christina ได้ทรงร่างจดหมายประกาศแสดงสิทธิ์ลงวันที่ 12 มกราคม คริสต์ ศตวรรษที่ 1641 ให้กับบริษัท “Soderlandska Company” ที่ได้ก่อตั้งในปีคริสตศักราช 1626 มีสำนักงานและคลังสินค้าอยู่ทั้งใน สต๊อคโฮม (Stockholm) และโกเธนเบิรก์ (Gothenburg) เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการนำเข้ายาสูบมาในสวีเดน หรืออาจกล่าวได้ว่าบริษัทพวกเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโรงงานยาสูบอย่างเป็นทางการแห่งแรกของประเทศสวีเดนก็ว่าได้
ในช่วงยุคปลายของคริสตศักราช 1915 หรืออาจจะเป็นระยะสุดท้ายของโรงงานยาสูบในสวีเดนที่เป็นที่รู้จักของประชาชนซึ่งขณะนั้นหลักๆ แล้วการทำงานของโรงงานยาสูบนี้ก็คือการหาเงินเข้ารัฐบาลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และเพื่อที่จะสร้างวางรากฐานระบบบำนาญแห่งชาติ และก็ทำให้เห็นว่าเหตุผลหลักๆ ที่กระตุ้นให้โรงงานยาสูบนี้ยังคงอยู่เนื่องจากสวีดิช สนูสเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 การเติบโตของผู้นิยมยาเหน็บไม่มีตกลงจนถึงกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ การสูบบุหรี่ได้เข้ามาสร้างกระแสนิยมมากขึ้นและได้ส่งผลกระทบไปอย่างกว้างขวางจนทำให้เกิดวัฒนธรรมประชานิยมขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่ยุคศตวรรษที่ 1960 ช่วงปลายของโรงงานยาสูบนี้ได้ถูกกำหนดจัดสรรแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือการผลิตและการจัดจำหน่าย จากนั้นต่อมาตั้งแต่ยุค 1970 การใช้สวีดิชสนูส ก็ได้รับความนิยมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้ผู้คนสนใจบุหรี่แบบมวนน้อยลง ทั้งในประเทศสวีเดนและประเทศนอร์เวย์
สวีดิช สนูส
การปลูกใบยาสูบเริ่มถูกวางรากฐานในประเทศสวีเดนช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 1700 และเริ่มต้นปลูกสำหรับการค้าขายอย่างแพร่หลายประมาณ 70 กว่าเมืองทั่วประเทศสวีเดน ช่วงเวลานั้นการใช้ยาสูบแบบเคี้ยวเป็นนิยมในฝูงชนแต่ก็ถูกมองว่าเป็นความเพลิดเพลินที่มีราคาสูงอยู่ระยะหนึ่งและโดยทั่วไปถูกมองว่าเป็น พฤติกรรมที่ไม่ดี จนกระทั่งในช่วงยุคต้นศตวรรษที่ 18 หลายๆ ครั้งที่มีการพยายามเปลี่ยนหรือหาสิ่งอื่นมาทดแทน ยาสูบแบบเคี้ยวก็ถูกแทนที่ด้วย สวีดิชสนูสแบบเปียก สวีดิชสนูสชนิดเปียกนี้ ได้ถูกเรียกขานว่า Lip snus หรือ Eating snus ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีราคาที่ถูกกว่าและผลิตได้ง่ายกว่ามาก
ต้องขอบคุณสิ่งนี้จริงๆ ที่ผู้นิยมสูบสามารถปลูกบริโภคได้เองตามครัวเรือนหรือแม้แต่ปลูกผลิตเพื่อการค้าขาย ชาวไร่ ชาวสวนที่มีฟาร์มใบยาสูบตนเองขนาดใหญ่ก็เริ่มที่จะผลิตจำหน่ายเองได้ จนกระทั่งถึงช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมที่อีกไม่นานนักโรงงานอุตสาหกรรมหลากหลายขนาดก็เริ่มเติบโตขึ้นมาให้เห็นกัน
โรงงานอุตสาหกรรมยาสูบส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่เมืองท่าของประเทศสวีเดน เพราะเป็นจุดที่ง่ายต่อการรับวัตถุดิบ ใบยาสูบ สำหรับการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป สนูส ไปยังลูกค้าของพวกเขาได้อย่างสะดวก
การใช้สวีดิช สนูส
เนื่องจากการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมและสังคมเมือง ชาวสวีดิชส่วนใหญ่เริ่มที่จะพึ่งพาการซื้อสินค้าเพื่อการอยู่รอดและนี่ก็มีผลต่อ สวีดิชสนูสก็เช่นกัน จากที่สามารถปลูกกันใช้ได้กันเองภายในครัวเรือน ปรุงแต่งตามฉบับที่ตัวเองชอบ
ตอนนี้ต้องหาซื้อสนูสมาบริโภคกันไม่ว่าจะจากร้านเล็กๆในเมือง หรือ จากโรงงานผู้ผลิต โดยปกติทั่วไปประชาชนผู้นิยมจะซื้อแบบใบยาบดผงหยาบตามร้านที่จำหน่ายโดยจะใช้การตวงและชั่งน้ำหนักจากตาชั่ง
ในช่วงนั้น สนูส แบบซอง (pouch) ยังไม่มีการผลิตจำหน่าย แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆในปี 1970 ยาสูบบด สวีดิชสนูส ก็ได้ถูกบรรจุในหีบห่อกระดาษหลากหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมที่สุดจะเป็นรูปแบบทรงกรวยกระดาษ
และคุณยังสามารถสรรหาซื้อ สวีดิชสนูส รูปแบบที่เรียกขานว่า “Kardus” บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตออกมาในรูปแบบสำเร็จถูกบรรจุยาสูบที่มีน้ำหนักและสำแดงส่วนผสม ในสวีเดนก็มีเช่นกันส่วนมากจะมาในลักษณะซองรูปทรงไข่(pouch) ถูกผลิตมาจากกระดาษไขอัดเรียบ โดยปกติคนส่วนมากก็มีกล่องรูปแบบบรรจุยาสูบในกระดาษสำเร็จเป็นของส่วนตัวเหมือนกับคนในยุคสมัยนี้เช่นกัน
กล่องบรรจุลักษณะนี้ในยุคนั้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของ สถานะทางวิชาชีพ หรือบ่งบอกถึงความสนใจ และยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เมื่อถึงเวลาการเข้าสังคม เจ้ากล่องสวีดิชสนูส นี้จะถูกส่งต่อให้ผู้คนในกลุ่มสนทนาเพื่อทดลองเพียงหนึ่งหยิบมือและถือเป็นแบบฉบับการเริ่มต้นการสนทนาอย่างสุภาพของกลุ่มคนชั้นสูงหรือขุนนาง
สวีดิช สนูส ในปัจจุบัน
อะไรคือสิ่งที่ทำให้สวีดิช สนูสแตกต่างจากยาเคี้ยว (ยาเหน็บ) แบบอื่น หรืออาจจะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของมันที่ทางสำนักงานอาหารแห่งชาติสวีเดน (NFA) ได้จัดให้อยู่ในหมวดหมู่ประเภทอาหาร เพราะกระบวนการผลิตที่ต้องผ่านการฆ่าเชื้อ (pasteurisation) ซึ่งทำให้สารก่อมะเร็งถูกลดประสิทธิภาพและถูกกำจัดออกไป ซึ่งเหล่าผู้ผลิตทั้งเล็ก ใหญ่ต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อบังคับที่ทางสำนักงานอาหารแห่งชาติสวีเดนกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
โดยทั้งสำนักงานอาหารแห่งชาติสวีเดนได้ลงความเห็นว่าสวีดิชสนูสเพียงหนึ่งกล่องไม่มีสารอันตรายต่อร่างกายที่สูงกว่าสัดส่วนของสารปนเปื้อนต่างๆในอาหารสำหรับการบริโภคเพราะว่าในสวีดิชสนูสสารเจือปนจะมีมาตรฐานที่อยู่ในระดับเดียวกันกับการจำกัดสารปนเปื้อนหรือสารปรุงแต่งในอาหารเพื่อบริโภคทั่วไป
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังได้ระบุอีกด้วยว่าสวีดิชสนูสมีผลเป็นไปในทิศทางบวกต่อสุขภาพผู้ใช้
และนี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าประเทศอย่างสวีเดนและนอร์เวย์มีเปอร์เซนต์ผู้ใช้สนูสจำนวนมากกว่าจำนวนผู้สูบบหรี่
และยังมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าโรคร้ายที่เกิดจากบุหรี่และแม้กระทั่งจำนวนอัตราการเสียชีวิตอันเป็นผลสืบเนื่องจากการสูบบุหรี่มีจำนวนลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายชาวสแกนดิเนเวียน
จากผลการสำรวจอย่างต่อเนื่องในเรื่องระบาดวิทยาชี้ให้เห็นว่าประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยมะเร็งปอดต่ำที่สุดในจำนวนประเทศอุตสาหกรรมทั้งหลายในทวีปยุโรป
งานวิจัยหลายๆประเทศเกี่ยวกับการสูบบหรี่ในยุโรปได้มีข้อโต้แย้งอย่างเห็นได้ชัดจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “SwedishExperience” (ประสบการณ์แบบฉบับสวีดิช)
เป็นสถิติที่ชี้ระบุข้อเท็จจริงที่ว่าการใช้ยาสูบในระดับปริมาณที่เท่ากันวัดเป็นหน่วยกิโลผู้ชายในประเทศสวีเดนก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุการเสพยาสูบที่น้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป
กลุ่มชายชาวสวีเดนส่วนมากไม่เสพยาสูบรูปแบบเดิมๆพวกเขานิยมสวีดิชสนูสประชากรกว่าหนึ่งล้านคนในประเทศสวีเดนใช้สวีดิชสนูสเฉลี่ยประมาณ6200ตันต่อปีข้อมูลนี้มาจากโรงงานผลิตสวีดิชสนูสที่ใหญ่ที่สุดในโลก “Swedish Match”แสดงให้เห็นว่ากว่า 18%ของชายสวีเดนใช้สวีดิชสนูส มีเพียง10% ที่สูบบุหรี่ซึ่งเป็นอัตราการสูบบุหรี่ที่ต่ำที่สุดในทวีปยุโรป
เพราะเหตุนี้หลายๆประเทศทั่วโลกจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับสวีดิชสนูส เรื่องที่มีผลต่อสุขภาพในทิศทางที่เป็นผลบวกแก่ผู้ที่นิยมชื่นชอบสวีดิชสนูส และนี้ยังแสดงให้เห็นการสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้นิยมใช้สวีดิช สนูสทั่วโลกอีกด้วย