สนูสกับสุขภาพ

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสวีดิชสนูสและสุขภาพ

จากมุมมองสุขภาพสาธารณสุข มีคำกล่าวมากมายที่เป็นไปในทางบวกเกี่ยวกับสวีดิชสนูสที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชอบการสูบบุหรี่

จากผลการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพด้านบวกของสวีดิชสนูส ทำให้สื่อและองค์กรต่างๆให้ความสนใจเป็นอย่างมากในขณะเดียวกันความสนใจจากหลายๆประเทศ ที่เกี่ยวกับสวีดิชสนูสก็โตขึ้นอย่างเนื่อง

โดยเน้นเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเป็นทางเลือกที่มีผลต่อสุขภาพที่เข้ามาทดแทนการสูบบุหรี่ที่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่ตามมาอย่างร้ายแรง

ในปัจจุบันสวีดิชสนูสเป็นการเลิกสูบบุหรี่ที่พบได้บ่อยที่สุดทั้งในประเทศสวีเดนและประเทศนอร์เวย์

สวีดิชสนูสประกอบไปด้วยนิโคตินหลายระดับ การออกฤทธิ์ของมันที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางงานวิจัยได้แสดงผลการศึกษาของสารเมตาบอไลต์ในนิโคตินก็ไม่ได้เป็นผลก่อให้เกิดโรคมะเร็งในคน อย่างไรก็ตามนิโคตินในทุกรูปทำให้ผู้ใช้เสพติดแม้กระทั่งนิโคตินดัดแปลงในรูปของหมากฝรั่งหรือแบบแปะ (patches)

ทุกวันนี้ทั้งในประเทศสวีเดนและประเทศนอร์เวย์ใช้สวีดิชสนูสเป็นตัวช่วยในการเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากความจริงที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าผลการวิจัยทางการแพทย์ผู้ซึ่งชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เป็นบวกต่อร่างกายของประชาชนทั่วไป ข้อสังเกตนี้เองที่ทำให้ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียนอย่างสวีเดนและนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีผู้นิยมใช้สวีดิชสนูสมากกว่าชาติอื่นๆ

จากข้อมูลข้างต้นนี้และในบ่อยครั้งในบทความที่ระบุว่าประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดต่ำที่สุดในทวีปยุโรป ตามที่ WHO’s International Agency for Agency for Research on Cancer (IARC)  หน่วยงานวิจัยองค์การอนามัยโลกได้ทำการสำรวจและเก็บสถิติของโรคร้ายนี้ แม้กระทั่งจำนวนของผู้ใช้ยาสูบจะมีจำนวนเท่าๆกับอีกหลายๆประเทศ  ความจริงหลักที่ว่ากระบวนการผลิตสวีดิช- สนูส ต้องผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ ทำให้มันมี TNSA (Tobacco Specific Nitros Amines) กลุ่มสารก่อมะเร็งในยาสูบถูกลดปริมาณลง นอกจากนั้นเช่นเดียวกับกระบวนการทำงานของสวีดิชสนูสนิโคตินไม่ได้ถูกปล่อยออกมา จึงทำให้ไม่มีกลุ่มควันที่มีสารก่อมะเร็งอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงซึ่งสารเหล่านี้จะถูกส่งต่อเข้าหลอดลมไปสู่ปอดของผู้สูบโดยตรง

การศึกษาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่รวมถึงการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้ ไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานที่เชื่อมโยงระหว่างสวีดิชสนูสกับโรคร้ายอื่นใด  ซึ่งปกติแล้วกลุ่มโรคร้ายแรงเหล่านี้เป็นผลตามมาจากการสูบบุหรี่อย่างโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพาต รวมทั้งโรคติดเชื้ออื่นและโรคร้ายเกี่ยวกับระบบหายใจต่างๆ  (ข้อมูลจาก WHO 2014)

นอกเหนือจากนี้ การใช้สวีดิชสนูสไม่ได้มีส่วนที่ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าบุหรี่มือสอง หรือส่งผลกระทบต่อความเจ็บป่วยเกี่ยวกับเส้นประสาทใดเมื่อผู้คนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในปี 2014 กระทรวงสุขภาพของสหรัฐระบุชัดเจนว่า ควันบุหรี่มือสอง ได้เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดและหัวใจในผู้ใหญ่เช่นเดียวกับเด็ก  ข้อมูลยังชี้ให้เห็นอีกว่าหากหญิงตั้งครรภ์ที่เกี่ยวข้องกับควันบุหรี่จะได้รับผลกระทบโดยตรงแก่เด็กใครรภ์ทำให้เค้าเจริญเติบโตผิดปกติตั้งแต่อยู่ในท้อง น้ำหนักน้อย หรือทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด  คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรจะได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงนิโคตินทุกรูปแบบ

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Snus และ Health ของสวีเดน โปรดดูรายงานต่อไปนี้ในรูปแบบ PDF:

ตำนานหรือความจริง

“ไม่มีส่วนเชื่อมโยงให้เกิดโรคมะเร็งศรีษะและคอ”

บทสัมภาษณ์เดือนพฤษภาคม 2020

”ประชากรมากถึง 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของสวีเดนใช้สวีดิชสนูส สถิตินี้ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้รับโรคใดๆหรือเป็นโรคมะเร็ง ผมทราบว่าจากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ไม่พบว่าสวีดิชสนูสมีผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ โธมัส เวสติน แห่งโรงพยายาลมหาวิทยาลัยซองเกร็นสก้า ประเทศสวีเดน อดีตผู้อำนวยการคลีนิกหน่วยโรคมะเร็งศรีษะและคอประจำโรงพยาบาลRoyal Hallamsire ประเทศอังกฤษ

“การตั้งสมมติฐานเรื่องความเสี่ยงที่ขาดความน่าเชื่อถือ”

นิตยสาร Dagens Medicin ฉบับวันที่ 26 พฤษภาคม 2012

”จากการตั้งสมมติฐานในมุมมองของอณูชีววิทยาบอกว่าสวีดิชสนูสเป็นตัวก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งนั้น จากการรวบรวมเอกสารการศึกษาทางระบาดวิทยาเป็นเรื่องที่ไม่มีความน่าเชื่อถือจึงนำมาเป็นข้อสรุปในประเด็นนี้ได้”

ศาสตราจารย์โรเบิร์ต นิลสัน จากสถาบัน The Institute for Genetics, microbiologyและtoxicology มหาวิทยาลัยสต๊อคโฮมประเทศสวีเดน

”สูบบุหรี่คือผู้ร้าย”

Dagens Medicin ฉบับวันที่ 24 มีนาคม 2016

”พวกเราสามารถยืนยันได้ว่าสารนิโคตินที่มีอยู่ในตัวมันเองไม่ได้เป็นตัวก่อให้เกิดโรคร้ายแรงใดต่อสุขภาพ แต่การสูบบุหรี่คือตัวการที่แท้จริงที่ก่อให้เกิดกลุ่มของโรคปอดอักเสบเรื้อรัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สเตฟาน วิลเลอร์ หัวหน้าแพทย์หน่วยปอดและภูมิแพ้ มหาวิทยาลัยลุนด์ ประเทศสวีเดน”

Dr. Stefan Willers, หัวหน้าแพทย์ รองศาสตราจารย์ หน่วยปอดและภูมิแพ้ มหาวิทยาลัยลุนด์ ประเทศสวีเดน

”ไม่มีผลให้เกิดโรคมะเร็งปากและช่องคอ”

เดอะแลนซิต The Lancet วารสารการแพทย์ระดับโลก ฉบับวันที่ 16 กันยายน 2017

Iในเดือนกันยายน ปี 2017 วารสารการแพทย์ชื่อดังระดับโลก เดอะแลนซิตได้ตีพิมพ์บทความการวิเคราะห์อนุมานของการศึกษาวิจัยเรื่องสุขภาพของประชากรใหญ่ที่สุดของโลก The Global Burden of Disease Study (GBD) ซึ่งได้รวบรวมผลการสำรวจและพิมพ์เผยแพร่ในช่วงปี 1990 – 2016 จากหลักฐานที่มีเพียงพอว่ายาสูบประเภทเคี้ยว chewing tobacco หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นมีส่วนทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากและลำคอ แต่ในขณะเดีวยกันก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนหรือแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ระบุว่าสนูสหรือยาสูบไร้ควันประเภทอื่นก่อให้เกิดโรคร้ายนี้

คลิกที่นี่เพื่ออ่านการศึกษาออนไลน์ (ภาษาอังกฤษเท่านั้น)

“สวีดิชสนูสส่งเสริมสุขภาพประชาชน”

หนังสือพิมพ์ Aftonbladet สวีเดน ฉบับวันที่ 29 กันยายน 2013

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันว่าสวีดิชสนูสมีอันตรายน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดอื่น ในบทความของ Dr. Karl Erik Lund หัวหน้าแผนกสำรวจที่ Statens Institutt for Rusmiddelforskning (SIRUS) ประเทศนอร์เวย์ ได้นำเสนอผลสำรวจนี้ในนิตยสารต่างประเทศชื่อว่า Drugs and Alcohol Today พวกเราได้ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่องมาหลายปีเกี่ยวกับความจริงของสวีดิชสนูสที่มีผลต่อการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน

ตามรายงานของนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าผู้ที่ทั้งสูบบุหรี่และใช้สนูสไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงการเสพติดป็นสองเท่า ตามคำพูดของ Dr. Karl Erik Lundกล่าวว่าการมุ่งไปสู่สังคมปราศจากยาสูบโดยการใช้สวิดิชสนูส เราไม่อาจจะบอกได้ว่าหลายชีวิตที่รอดจากการใช้สนูสที่บ่งชี้ว่าทั้งหมดนี้เป็นผลจากการได้ประโยชน์ของสนูสต่อสุขภาพประชาชน

ตามรายงานทางวิทยาศาสตร์ การใช้ Snus ของสวีเดนไม่ได้ส่งผลให้เกิดการติดซ้ำ โดยที่ผู้คนทั้งสูบบุหรี่และใช้ Snus ผลที่ตามมาของกิจกรรมล็อบบี้ Anti-Snus อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ตามที่ดร. คาร์ล เอริก ลุนด์กล่าว

– การมุ่งเน้นไปที่สังคมปลอดยาสูบอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้ Snus ของสวีเดนในการลดอันตราย เราอาจไม่สามารถระบุจำนวนชีวิตที่ชนะได้เนื่องจาก Snus ของสวีเดน แต่โดยรวมแล้วสิ่งนี้บ่งชี้ว่า Snus ของสวีเดนมีผลเชิงบวกต่อสุขภาพของประชาชน ดร. Karl Erik Lund กล่าว

THE SWEDISH EXPERIENCE (ประสบการณ์แบบฉบับสวีดิช)

งานวิจัยหลายๆประเทศในยุโรปเกี่ยวกับการบริโภคยาสูบได้มีข้อโต้แย้งอย่างชัดเจนภายในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “The Swedish Experience”  (ประสบการณ์แบบฉบับสวีดิช)

ตามข้อมูลความจริงจากสถิติของผู้ผลิตข้ามชาติยักษ์ใหญ่อย่าง Swedish Match ระบุว่าผู้ใช้วีดิชสนูสในสวีเดนจะมีโอกาสเสียชีวิตสืบเนื่องจากโรคร้ายที่เกิดจากยาสูบมีความเสี่ยงที่ต่ำมากทั้งๆที่การบริโภคที่มีการคำนวณหน่วยวัดเป็นกิโลกรัมเมื่อถูกจับมาเทียบกับการบริโภคยาสูบกับประเทศอื่นๆในแถบยุโรป

จากสถิติของ Swedish Match นี้อาจจะพยายามบอกว่า“The Swedish Experience”เป็นสถานการณ์เฉพาะกลุ่มของชายชาวสวีเดนในเรื่องการบริโภคยาสูบ

หลักๆแล้วความแตกต่างก็คือ ความจริงที่ว่ากลุ่มชายชาวสวีเดนส่วนมากไม่บริโภคยาสูบรูปแบบเดิมๆอีกต่อไป พวกเขานิยมสวีดิชสนูส ข้อมูลสถิติชุดนี้ยังแสดงให้เห็นอีกว่ากว่า 18%ของชายสวีเดนใช้ สวีดิชสนูส และมีเพียงแค่ 10%เท่านั้นที่สูบบุหรี่ซึ่งเป็นอัตราการสูบบุหรี่ที่ต่ำที่สุดในยุโรป ข้อมูลนี้ยังบอกอีกว่าโรคร้ายแรงที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสูบบุหรี่และการเสียชีวิตที่ต่ำแม้กระทั่งในกลุ่มของชายชาวสวีเดนด้วยกันเอง นอกจากนี้ยังได้เชื่อมโยงเข้ากับข้อมูลทางการศึกษาโรคระบาดวิทยาที่ว่าชาวสวีเดนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดในอัตราที่ต่ำมากๆเมื่อเทียบกับชาติอื่นในยุโรป  อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก Swedish Match นี้ไม่อาจสามารถที่จะแสดงซึ่งความรับผิดชอบได้ทั้งหมดเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของสุขภาพแต่ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ต่างหากที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงจากการเป็นโรคร้ายแรงอันเป็นผลมาจากสวีดิชสนูสที่มีน้อยกว่าการสูบบุหรี่

สถิติจากการบันทึกผลสำรวจและข้อมูลจริงจากผู้ใช้วีดิชสนูส

  1. ในปี 2011 เฉลี่ยชายวัยทำงานชาวสวีเดนสูบบุหรี่มีเพียง 10 % ประเทศนอร์เวย์ 19% ประเทศเดนมาร์ก 22% และค่าเฉลี่ยประเทศในยุโรปมี 32%
  2. ในปี 2011 เฉลี่ยในชีวิตประจำวันชายวัยทำงานชาวสวีเดนใช้สวีดิชสนูส 18% ในนอร์เวย์ 12% ส่วนในประเทศเดนมาร์ก 1.5% บริโภคยาสูบชนิดไร้ควันประเภทอื่น
  3. ในปี 2011 ผู้หญิงสวีเดนสูบบุหรี่ 12% ประเทศนอร์เวย์ 19% หญิงชาวเดนมาร์ก 22% และในทวีปยุโรปเฉลี่ย 21%
  4. และในปีเดียวกัน หญิงชาวสวีเดนใช้สนูส 3% ในประเทศนอร์เวย์ต่ำกว่า 2% และในประเทศเดนมาร์ก 0.2% ใช้ยาสูบไร้ควันรูปแบบอื่น
  5. ในปี 1997 สวีเดนเป็นประเทศแรกในโลกที่บรรลุตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก WHO ในปี 2000 ที่ประเทศที่มีประชากรในวัยกลางคนสูบบุหรี่ต่ำกว่า 20% ประเทศที่ได้รองอันดับหนึ่งต่อมาในปี 2005 คือ ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งความจริงแล้วประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียนเป็นกลุ่มประเทศที่มีประเพณีที่ใช้ยาสูบไร้ควันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
  6. ในปี 2000 มีอัตราการตายเพียง 10% ของชายชาวสวีเดนที่เกิดจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ เป็นอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำที่สุด จากปกติเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 23% ในกลุ่มประเทศยุโรป
  7. อัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงชาวสวีเดนมีอัตราเฉลี่ยสอดคล้อง EU25 ในปี 2000 และมี 7% สาเหตุเกี่ยวเนื่องมาจากการสูบบุหรี่
  8. ในปี 2000 ชายชาวสวีเดนอายุ 35 ปี มีความเสี่ยงจากการเสียชีวิตเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ก่อนอายุ 70 ปี เฉลี่ยเพียง 3%ในสวีเดน เมื่อเปรียบเทียบกับในประเทศนอร์เวย์มี 5% ในประเทศเดนมาร์กมี 8% และ 9% เป็นค่าเฉลี่ยในกลุ่มสหภาพยุโรป

ข้อมูลอ้างอิง/References:

A. Adlkofer, F.X. 1995. Involvement of nicotine and its metabolites in the pathology of smoking-related diseases: Facts and hypothesis. In: P.B.S. Clarke, M. Quik, F. Adlkofer. & K. Thurau (Eds.), Advances in Pharmacological Sciences, Effects of Nicotine on Biological Systems II. (pp. 17-25). Basel, Boston, Berlin: Birkhäuser Verlag.

B. ”Global, regional, and national comparative risk assessment of 84 behavioural, environmental and occupational, and metabolic risks or clusters of risks, 1990–2016: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2016”.

1. Sverige: Statens Folkhälsoinstitut. Norge: Sosial- og helsedirektoratet. Danmark: Sundhedsstyrelsen. Europa (EU 25+ Island, Norge och Schweiz): The European Tobacco Control Report 2007. WHO Regional Office for Europe.

2. Folkhälsa. Lägesrapport 2005, sid 24-25. Socialstyrelsen

3. Tobacco Statistics 1970-1999. Statistical Report 2000-09-18, VECA HB Statistical Bureau, p. 12.

4. Peto, R.; Lopez, AD.; Boreham, J.; Thun, M.; Heath, C. Mortality from smoking in developed countries 1950-2000 (2nd edition). Oxford, Oxford University Press; 2003. Updated in June 2006.

5. Swedish Cancer Registry, 1998.

6. Lewin, F., Norell, S.E., Johansson, H., Gustavsson, P., Wennerberg, J., Björklund, A., Rutqvist, L.E. Smoking tobacco, oral snuff, and alcohol in the etiology of squamous cell carcinoma of the head and neck. Cancer, 82, 1367-75 (1998).

7. Schildt, E.-B., Eriksson, M., Hardell, L., Magnusson, A. Oral snuff, smoking habits and alcohol consumption in relation to oral cancer in a Swedish case-control study. Int. J. Cancer, 77, 341-6 (1998).

8. Ye, W., Ekström, A.M., Hansson, L.-E., Bergström, R., Nyrén, O. Tobacco, alcohol and the risk of gastric cancer by sub-site and histologic type. Int. J. Cancer, 83, 223-9 (1999).

9. Lagergren, J., Bergström, R., Lindgren, A., Nyrén, O. The role of tobacco, snuff and alcohol use in the aetiology of cancer of the oesophagus and gastric cardia. Int. J. Cancer, 85, 340-6 (2000).

10. Bolinder, G., Alfredsson, L., Englund, A., de Faire, U. Smokeless tobacco and increased cardiovascular mortality among Swedish construction workers. Am. J. Public Health, 84, 399-404 (1994).

11. Huhtasaari, F., Lundberg, V., Eliasson, M., Janlert, U., Asplund, K. Smokeless tobacco as a possible risk factor for myocardial infarction: A population-based study in middle-aged men. J. Am. Coll. Cardiol., 34, 1784-90 (1999).

12. Eliasson, M., Lundblad, D., Hägg, E. Cardiovascular risk factors in young snuff-users and cigarette smokers. J. Int. Med., 230, 17-22 (1991).

0
    กลับไปที่ร้านค้า